Welcome To enjoy.tht.in  
>>> Update ล่าสุด 28-06-2566 <<< ยินดีต้อนรับท่านเข้าสู่ http://enjoy.tht.in จำหน่ายการ์ตูน ซีรี่ย์การ์ตูน ทั้งญี่ปุ่นและฝรั่ง จัดส่งทั่วประเทศครับ โทร 08-7392-7574                                                                                                                                                                                                                                          
Menu

 

 

 สถิติวันนี้ 59 คน
 สถิติเมื่อวาน 171 คน
 สถิติเดือนนี้
สถิติปีนี้
สถิติทั้งหมด
4665 คน
172321 คน
1949944 คน
เริ่มเมื่อ 2012-11-08


เซนต์เซย์ย่า (「聖闘士星矢」 Se'into Seiya – เซะอินโตะเซยะ)


สินค้าในเว็บ
-
Saint Seiya เซนเซย์ย่า ภาค 1 : เซนต์แห่งอาธีน่า
- Saint Seiya เซนเซย์ย่า ภาค 2: นักรบเกราะเงิน
- Saint Seiya เซนเซย์ย่า ภาค 3: ปราสาท 12 ราศี
- Saint Seiya เซนเซย์ย่า ภาค 4: อัศวินแห่งแอสการ์ด
- Saint Seiya เซนเซย์ย่า ภาค 5: เจ้าสมุทรโปเซดอน
- Saint Seiya เซนเซย์ย่า ภาค 6: ฮาเดส บทแซงทัวรี่
-
Saint Seiya เซนเซย์ย่า ภาค 7: ภาคยมโลก (Chapter Inferno) [บรรยายไทย]
-
Saint Seiya The Movie - Heaven Chapter ~ Overture
Saint Seiya The Hades Chapter Elysion OVA
- Saint Seiya เซนเซย์ย่า ภาค 7: ภาคยมโลก (Chapter Inferno)
Saint Seiya: The Lost Canvas - Meiou Shinwa เซนต์เซย์ย่า จ้าวนรกฮาเดส (OVA)
 

 


 

เซนต์เซย์ย่า (「聖闘士星矢」 Se'into Seiya – เซะอินโตะเซยะ) เป็นชื่อของหนังสือการ์ตูน ซึ่งแต่งขึ้นโดย มาซามิ คุรุมาดะ ซึ่งใช้กลุ่มดาวม้าบินมาเป็นตัวเอกของเรื่อง เนื่องจากม้าบินกำลังอยู่ในท่าทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ตรงกับภาพลักษณ์ของตัวเอกที่เขาได้คิดไว้นั่นเอง โดยมีเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กหนุ่ม 5 คนที่เรียกว่า เซนต์ (saint) ต่อสู้โดยใช้ร่างกายของตนเองเป็นอาวุธเพื่อปกป้องคิโดะ ซาโอริ ผู้เป็นอวตารของเทพีอะธีนา และต่อสู้กับทัพศัตรูแห่งความชั่วร้าย ในโลกร่วมสมัยที่มีบรรยากาศของเทพปกรณัมกรีก

     ในประเทศญี่ปุ่น เซนต์เซย์ย่าลงตีพิมพ์เป็นครั้งแรกในนิตยสารโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์ ของสำนักพิมพ์ชูเอฉะ และออกเป็นหนังสือรวมเล่มจำนวน 28 เล่มจบ ส่วนในประเทศไทย สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจได้รับสิทธิ์ในการตีพิมพ์ฉบับรวมเล่ม นอกจากภาคหลักแล้ว เซนต์เซย์ย่ายังได้รับการแต่งภาคเสริมขึ้นอีกหลายภาคด้วยกัน ได้แก่ ภาค Episode G , Next Dimension และ The Lost Canvas

     เซนต์เซย์ย่าถูกสร้างขึ้นในรูปแบบของอะนิเมะ และออกฉายครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี พ.ศ. 2529 โดยบริษัท โตเอแอนิเมชัน ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีจนได้ออกอากาศติดต่อกันนานเกือบ 3 ปี นอกจากนี้ยังได้แพร่ภาพทางโทรทัศน์ในประเทศต่าง ๆ อีกหลายประเทศ ทั้งในแถบเอเชียด้วยกัน เช่น ประเทศจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ประเทศแถบยุโรป สหรัฐอเมริกา ละตินอเมริกา รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งมีการนำเซนต์เซย์ย่ามาออกฉายเมื่อปี พ.ศ. 2531 ทางไทยทีวีสีช่อง 3 โดยใช้ชื่อว่า "เซย่า เทพบุตรหมัดดาวหาง" จากนั้นก็ได้ออกอากาศซ้ำอีกในปี พ.ศ. 2547 ทางสถานีโทรทัศน์ยูบีซี (ทรูวิชั่นส์ ในปัจจุบัน) และมีการนำออกวางจำหน่ายในรูปแบบวีซีดีโดย บริษัท การ์ตูนอินเตอร์ จำกัด ด้วย นอกจากนี้เซนต์เซย์ย่ายังได้รับการดัดแปลงเป็นสื่อในรูปแบบอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ภาพยนตร์ ละครเวที เกม และของเล่นต่าง ๆ

ประวัติ

ในขณะที่ มาซามิ คุรุมาดะ กำลังวางเค้าโครงเนื้อเรื่องของผลงานเรื่องใหม่อยู่ เขาก็ได้พบภาพของ "ฝนดาวตกสิงโต" เข้า ฝนดาวตกจำนวนมหาศาลที่ตกลงมาจากท้องฟ้านั้น ดูคล้ายกับลักษณะของเซนต์มาก คุรุมาดะจึงคิดจะออกแบบให้ตัวเอกของเรื่องเป็นราศีสิงห์ แต่หลังจากได้ค้นข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติม เขาก็พบกลุ่มดาวม้าบิน ซึ่งม้าบินหรือเพกาซัสที่กำลังอยู่ในท่าทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ตรงกับภาพลักษณ์ของตัวเอกที่คุรุมาดะกำหนดเอาไว้เป็นอย่างมาก เขาจึงตัดสินใจเลือกเพกาซัสให้เป็นกลุ่มดาวประจำตัวเอก และนำลักษณะของฝนดาวตกสิงโต มาเป็นต้นแบบของท่าไม้ตายของตัวเอก แล้วคุรุมาดะก็ตั้งชื่อให้กับตัวเอกของเรื่องว่า "เซย์ย่า"

เมื่อวางเค้าโครงเรื่องเสร็จ คุรุมาดะก็เลือกกลุ่มดาวขึ้นมา 10 กลุ่มดาว (จากทั้งหมด 88 กลุ่มดาว) และกำหนดให้เป็นบรอนซ์เซนต์ทั้ง 10 คน ส่วนกลุ่มดาวอื่นๆ ที่เหลืออีก 78 กลุ่มดาว ก็ได้รับการออกแบบให้เป็นเซนต์ในระดับต่างๆ ซึ่งมีความสามารถที่แตกต่างกันไป


เนื้อเรื่อง

เนื้อเรื่องของเซนต์เซย์ย่านั้น ในฉบับมังกะสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ภาค ด้วยกัน ได้แก่ ภาคศึก12 ราศีภาคโพเซดอน และภาคฮาเดส แต่ในอะนิเมะนั้น ได้เพิ่มภาคอาสการ์ดเข้ามา ซึ่งเป็นภาครอยต่อระหว่าง ภาคศึก 12 ราศีและภาคโพเซดอน นอกจากนี้ ยังได้มีการแต่งเนื้อเรื่องเพิ่มขึ้นมาในภายหลังอีกหลายภาคด้วยกัน สำหรับเนื้อเรื่องย่อของภาคต่าง ๆ มีดังนี้

ภาคศึก 12 ราศี (Sanctuary Chapter)

     หลังจากที่ไอโอลอสได้ช่วยเหลือเอธนาที่ยังเป็นเพียงเด็กทารกจากการลอบสังหารของเคียวโก (เจมินี่ ซากะ) แล้ว ไอโอลอสได้ฝากเอเธน่าและชุดคล็อธซาจิทาเรียสไว้กับคิโด มิสึมาสะเป็นผู้ดูแล เนื้อเรื่องหลังจากนั้นของภาคแซงค์ทัวรี อาจจะแบ่งย่อย ๆ ได้เป็น
  • ศึกกาแล็คเซียนวอร์ส
เริ่มต้นจากการคัดเลือกเหล่าเด็กกำพร้า 100 คน จากสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศแล้วส่งไปฝึกฝนเพื่อให้ได้เป็นเซนต์ โดยมีผู้ที่สามารถฝึกสำเร็จจนได้เป็นบรอนซ์เซนต์ (Bronze saint) เพียง 10 คนเท่านั้น หลังจากนั้น คิโดะ ซาโอริจึงได้จัดการประลองขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น เรียกว่า "ศึกกาแล็คเซียนวอร์ส" ซึ่งเป็นการประลองระหว่างบรอนซ์เซนต์ทั้ง 10 คน เพื่อหาผู้ชนะที่จะได้ครอบครองชุดคล็อธซาจิทาเรียส ในระหว่างการต่อสู่ระหว่างเหล่าเซนต์นั้น ฟินิกซ์อิคิ บรอนซ์เซนต์คนที่ 10 ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมา พร้อมกับเหล่าแบล็คเซนต์ แล้วได้ขโมยชิ้นส่วนของชุดคล็อธซาจิทาเรียสไป ดังนั้น พวกเซย์ย่าจึงมีหน้าที่ที่จะต้องนำชุดคล็อธซาจิททาเรียสกลับคืนมาให้ได้
  • การต่อสู้กับแบล็คเซนต์
หลังจากที่แบล็กเซนต์ได้ขโมยเอาชุดคล็อธซาจิททาเรียส พวกเซย์ย่าได้เดินทางไปยังภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเป็นจุดที่เหล่าแบล็คเซนต์ (Black Saint) อยู่ พวกเซย์ย่าได้ต่อสู้กับอิคิและเหล่าแบล็คเซนต์จนสามารถนำชุดคล็อธซาจิทาเรียสกลับคืนมาได้ หลังจากการต่อสู้นั้น ภูเขาฟูจิก็ได้ถล่มลงมาซึ่งเป็นฝีมือของซิลเวอร์เซนต์ (Silver Saint) ที่ได้รับคำสั่งจากเคียวโกให้มากำจัดพวกเซย์ย่า นั่นเอง แต่พวกเซย์ย่าก็สามารถหนีออกมาจากใต้ภูเขาได้โดยความช่วยเหลือของ อาริเอส มู
  • การต่อสู้กับซิลเวอร์เซนต์
ซิลเวอร์เซนต์ปรากฏตัวขึ้นหลังจากการต่อสู้กับเหล่าแบล็คเซนต์เพื่อกำจัดพวกเซย์ย่าตามคำสั่งของเคียวโก แต่พวกเซย์ย่าก็สามารถกำจัดเหล่าซิลเวอร์เซนต์ที่ถูกส่งมาได้ถึง 10 คน ซึ่งในบรรดาเหล่าซิลเวอร์เซนต์ที่ถูกส่งมานั้น ก็มีมารีนและไชน่าที่ได้ให้ความช่วยเหลือพวกเซย์ย่าในการต่อสู่ครั้งนี้ด้วย เมื่อซิลเวอร์เซนต์ที่เคียวโกส่งมาถูกกำจัดลง เคียวโกจึงได้ส่งโกลด์เซนต์ (Gold Saint) ไอโอเลีย มากำจัดเซย์ย่า ซึ่งจากการเดินทางมากำจัดเซย์ย่าในครั้งนี้ ทำให้ไอโอเลียได้รู้ความจริงว่าคิโดะ ซาโอรินั้น เป็นร่างจุติของเอเธน่าที่ไอโอลอสได้ช่วยชีวิตไว้เมื่อ 13 ปีก่อนนั่นเอง
  • การต่อสู้กับเหล่าโกลด์เซนต์
เอเธน่าตัดสินใจเดินทางไปยังแซงค์ทัวรี่เพื่อเข้าพบเคียวโก แต่เอเธน่าได้ถูกลูกศรทองคำของซิลเวอร์เซนต์ ซาจิตต้า เทรมี่ ปักเข้าที่หัวใจ ซึ่งพวกเซย์ย่าจะต้องบุกเข้าไปยัง 12 ปราสาทแห่งแซงค์ทัวรี่ภายใน 12 ชั่วโมง เพื่อพาเฮียวโกมามาช่วยเหลือเอเธน่าให้ปลอดภัย ปราสาท 12 แห่งของแซงค์ทัวรี่นั้นมีเหล่าโกลด์เซนต์ 12 คนเป็นผู้ดูแลประจำแต่ละปราสาท ดังนั้น การที่จะขึ้นไปยังเทวสถานอาธีน่านั้น จำเป็นต้องล้มโกลด์เซนต์ทั้ง 12 คนไปให้ได้เสียก่อน ซึ่งไม่มีใครสามารถทำได้ตั้งแต่สมัยเทพนิยาย อย่างไรก็ตาม อาริเอส มู ได้แนะนำให้พวกเซย์ย่าปลุกพลังเซเว่นเซนส์ (Seventh Sense) ซึ่งเป็นพลังคอสโมสูงสุดขึ้นมา พวกเซย์ย่าสามารถปลุกพลังเซเว่นเซนส์และสามารถผ่านปราสาททั้ง 12 แห่ง และสามารถเอาชนะเคียวโก (เจมินี่ ซากะ) จนไปถึงเทวสถานอาธีน่าและใช้โล่ที่รูปปั้นอาธีน่าช่วยชีวิตคิโดะ ซาโอริเอาไว้ได้ ในการต่อสู้ครั้งนี้ทำให้โกลด์เซนต์บางส่วนได้เสียชีวิตไป ได้แก่ เจมินี่ ซากะ, แคนเซอร์ เดธมาสค์, แคปริคอร์น ชูร่า, อควอเรียส คามิว และ พิสซิส อโฟรดิตี้ ส่วนเหล่าโกลด์เซนต์ที่เหลือก็ได้ถวายความจงรักภักดีต่อเอเธน่า

ภาคศึกอัศวินแห่งแอสการ์ด

     ภาคศึกอัศวินแห่งแอสการ์ด เป็นเนื้อเรื่องที่แต่งขึ้นมาสำหรับภาคอะนิเมะ ไม่มีในมังงะ โดยเนื้อเรื่องเริ่มขึ้นหลังเสร็จสิ้นจากศึก 12 ปราสาทแห่งแซงค์ทัวรี่ โดยโพราลีส ฮิลด้า ผู้ปกครองแคว้นแอสการ์ด ผู้ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแทนของเทพเจ้าโอดีน ถูกอำนาจของ "แหวนนีเบอลุง" เข้าครอบงำ ซึ่งทำให้ฮิลด้ามีความต้องการที่จะครอบครองแซงค์ทัวรี่และพื้นพิภพทั้งหมด โดยมีก็อดวอริเออร์ทั้ง 7 เป็นผู้คุ้มครอง เอเธน่าได้เดินทางมายังแอสการ์ดเนื่องจากรับรู้ถึงสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น และได้เสียสละตนทำหน้าที่ยับยั้งการละลายของน้ำแข็งขั้วโลก เพื่อช่วยโลกและเอเธน่าพวกเซย์ย่าจึงต้องรวบรวมโอดีนแซฟไฟร์ซึ่งจะได้มาโดยการกำจัดเหล่าก็อดวอริเออร์ทั้ง 7 คน เพื่อนำมาใช้ถอดแหวนนีเบอลุงออกจากนิ้วของฮิลด้าให้ได้ภายในเวลาครึ่งวัน หลังจากที่พวกเซย์ย่าสามารถโค่นก็อดวอริเออร์ทั้ง 7 คนและรวบรวมโอดีนแซฟไฟร์ครบ 7 เม็ดแล้ว เซย์ย่าก็ได้ใช้โอดีนแซฟไฟร์ปลุก "ชุดโอดีนโร้บ" ขึ้นและใช้ดาบของโอดีนโร้บทำลายแหวนนีเบอลุงที่นิ้วของฮิลด้าได้สำเร็จ โดยที่แท้จริงแล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นเป็นแผนของเจ้าสมุทรโพเซดอนนั่นเอง

ภาคศึกเจ้าสมุทรโพเซดอน

     ด้วยอำนาจของเทพสมุทรโพเซดอนได้ทำให้เกิดฝนตกอย่างหนักบนโลก และเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมหลายแห่ง โดยโพเซดอนหวังว่าจะให้น้ำท่วมโลกเพื่อกำจัดมนุษย์ และให้พื้นพิภพปกครองโดยเหล่าเทพเจ้าอีกครั้ง เพื่อยุติภัยพิบัติครั้งนี้ เอเธน่าจึงได้เดินทางไปพบโพเซดอนที่วิหารใต้ท้องมหาสมุทร และได้เสียสละตัวเองเข้าไปในเสาเมนเบรดวินเนอร์เพื่อรองรับน้ำฝนจากบนโลกให้มาตกภายในเสานี้เท่านั้น พวกเซย์ย่าจึงต้องช่วยเอเธน่าให้ออกมาจากเสาเมนเบรดวินเนอร์ให้ได้ก่อนที่อาธีน่าจะจมน้ำตาย โดยการกำจัดเหล่ามารีเนอร์ทั้ง 7 คน รวมทั้งโค่นเสาค้ำมหาสมุทรที่เหล่ามารีเนอร์คุ้มครองอยู่ด้วย โดยใช้อาวุธของชุดคล็อธไลบร้า เมื่อพวกเซย์ย่าสามารถโค่นมารีเนอร์และทำลายเสาค้ำมหาสมุทรทั้ง 7 ต้นได้แล้ว จึงบุกเข้าไปยังวิหารโพเซดอนเพื่อทำลายเสาเมนเบรดวินเนอร์ แต่ถูกโพเซดอนขัดขวางไว้ ซึ่งเหล่าโกลด์เซ็นต์ได้ส่งชุดคล็อธซาจิททาเรียส ชุดคล็อธไลบร้า และชุดคล็อธอควอเรียสมาช่วยเหลือ พวกเซย์ย่าได้รวมรวบพลังไปยังลูกธนูของซาจิททาเรียสแล้วยิงเข้าใส่โพเซดอนทำให้โพเซดอนได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นก็ได้เข้าทำลายเสาเมนเบรดวินเนอร์และช่วยเหลือเอเธน่าได้สำเร็จ เอเธน่าจึงใช้คนโทกักวิญญาณของโพเซดอนไว้อีกครั้งหนึ่ง

ภาคศึกเทพเจ้าฮาเดส

     เนื้อเรื่องของภาคฮาเดสนั้นเริ่มต้นจากพลังของเอเธน่าที่ใช้ผนึกเหล่าสเป็คเตอร์ไว้หลังจากการต่อสู้ในสงครามศักดิ์สิทธิ์เมื่อ 243 ปีก่อนนั้น ได้เสื่อมลง ซึ่งทำให้เหล่าสเป็คเตอร์ภายใต้การนำของฮาเดส เทพเจ้าแห่งยมโลก (โลกหลังความตาย) ฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง เนื้อเรื่องหลังจากนั้นของภาคศึกเทพเจ้าฮาเดส อาจแบ่งย่อยได้ ดังนี้

  • ภาคแซงก์ทัวรี (The Hades Chapter - Sanctuary)
หลังจากการคืนชีพของเหล่าสเป็คเตอร์ภายใต้การนำของฮาเดสนั้น ฮาเดสได้ใช้พลังทำให้เหล่าโกลด์เซนต์ที่เสียชีวิตไปแล้ว ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง โดยจะมีเวลาอยู่บนโลกได้ 12 ชั่วโมงเพื่อไปนำศีรษะของอาธีน่ามาให้ตน เหล่าโกลเซนต์ภายใต้การนำของอาริเอส ชิออน จึงได้บุกเข้า 12 ปราสาทแห่งแซงค์ทัวรี่เพื่อขึ้นไปยังวิหารอาธีน่า ในระหว่างการต่อสู้นั้น ทอรัส อัลเดบารัน และ เวอร์โก้ ชากะ ได้เสียชีวิตลง แต่ชากะได้เขียนคำว่า "อารายาชิกิ" ลงบนกลีบดอกไม้ให้พัดพาไปถึงอาธีน่า โดยต้องการบอกให้อาธีน่าเข้าใจถึงการตายของเขาในครั้งนี้เพื่อทำการปลุกสัมผัสที่ 8 หรือ เอทเซนส์ (Eighth Sense) ซึ่งจะทำให้มนุษย์ที่ยังมีชีวิตสามารถลงไปยังยมโลกได้ เมื่ออาธีน่าทราบถึงเจตนาของชากะ จึงได้สั่งให้นำพวกซากะมาพบตน และได้ใช้กริชทองคำที่ซากะเคยคิดใช้สังหารอาธีน่าเมื่อ 13 ปีก่อนปลิดชีพตนเอง หลังจากนั้น อาริเอส ชิออนจึงได้บอกความจริงทั้งหมดแก่พวกเซย์ย่าว่า เจตนาที่แท้จริงของเหล่าโกลด์เซนต์ที่คืนชีพมาในครั้งนี้ก็เพื่อใช้เลือดของอาธีน่าปลุกชุดคล็อธแห่งอาธีน่านั่นเอง หลังจากการตายของอาธีน่านั้น พวกเซย์ย่าพร้อมกับเหล่าโกลด์เซนต์ที่เหลือได้บุกไปยังปราสาทฮาเดส และพวกเซย์ย่าได้ปลุกสัมผัสที่ 8 ขึ้นมาเพื่อลงไปยังยมโลกทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ได้สำเร็จ
  • ภาคยมโลก (The Hades Chapter - Inferno)
หลังจากเข้าสู่บมโลก พวกเซย์ย่าได้แยกเป็น 2 กลุ่ม โดยเซย์ย่าและชุนได้เดินทางไปด้วยกัน ส่วนชิริวและเฮียวงะก็แยกไปอีกเส้นทาง โดยทั้ง 2 กลุ่มเดินทางมุ่งไปยังนรกขุมต่าง ๆ และได้กำจัดเหล่าสเป็คเตอร์ประจำขุมนรกต่าง ๆ ลง เซย์ย่าและชุนได้พบกับไลรา โอฟี ซิลเวอร์เซนต์อีกคนที่อยู่ในนรกเพื่อบรรเลงพิณให้ฮาเดสฟัง ด้วยความช่วยเหลือของโอฟี ทำให้เซย์ย่าและชุนบุกเข้าถึงปราสาทที่พักของฮาเดสได้ แต่เหตุการณ์กลับพลิกผันโดยชุนได้กลายเป็นร่างสถิตของฮาเดส แต่ด้วยความช่วยเหลือของอาธีน่าทำให้วิญญาณของฮาเดสที่เข้าสิงรางของชุนนั้นกลับไปสู่เอริเชี่ยน อาธีน่าจึงตามฮาเดสไปสู่อาริเชี่ยน ทว่าพวกเซย์ย่าไม่สามารถไปสู่เอริเชี่ยนได้เพราะมีกำแพงวิปโยคขวางกั้นอยู่ พวกเซย์ย่าพยายามจะทำลายกำแพงนั้นแต่ไร้ผล และในขณะนั้นเอง วิญญาณของโกลด์เซนต์ทั้ง 7 คนที่เสียชีวิตไปแล้วก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของกำแพงวิปโยค เมื่อเห็นดังนั้น โกลด์เซนต์อีก 5 คนที่ยังมีชีวิตได้แก่ โดโก มู มิโร่ ไอโอเรีย และชากะ จึงได้เสียสละชีวิตของตนไปพร้อมกับวิญญาณของเพื่อนโกลด์เซนต์ทั้ง 7 เพื่อทำลายกำแพงนั้นลง ทำให้พวกเซย์ย่าสามารถเดินทางไปยังเอริเชี่ยนได้
  • ภาคเอลิเซี่ยน (The Hades Chapter - Elysion)
หลังจากเซย์ย่า ชิริว เฮียวงะ ชุน และอิกกิ เดินทางมาสู่เอริเชี่ยนแล้ว ได้ต่อสู้กับทานาทอสและฮิปนอส ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่ยอมสยบแก่ฮาเดส พวกเซย์ย่าไม่สามารถสู้กับทานาทอสและฮิปนอส แต่ด้วยเลือดของอาธีน่าทำให้ชุดคล็อธที่แตกละเอียดของทั้ง 5 คนกลับคืนชีพอีกครั้งกลายเป็น "ชุดก็อดคล็อธ" ทำให้พวกเซย์ย่าสามารถกำจัดทานาทอสและฮิปนอสลงได้ หลังจากนั้นพวกเซย์ย่าจึงได้ต่อสู่กับฮาเดส และสามารถมอบชุดคล็อธให้อาธีน่าสวมได้สำเร็จ อาธีน่าจึงใช้คทาทองคำของตนกำจัดฮาเดสลงได้ในที่สุด

ภาคเสริมอื่น ๆ

นอกจากนี้ ยังมีการแต่งเนื้อเรื่องขึ้นมาใหม่ในช่วงหลัง โดยเนื้อเรื่องที่แต่งขึ้นมาใหม่นี้ จะเป็นการกล่าวถึงช่วงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนการดำเนินเรื่องในภาคหลัก ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ดังนี้

  • ภาค Episode G
เป็นฉบับมังงะที่ทำขึ้นใหม่ โดยเปลี่ยนผู้วาดภาพเป็น เมกุมุ โอคาดะ แต่คนแต่งยังคงเป็นคุรุมาดะเช่นเดิม กล่าวถึงเรื่องราวในอดีตเมื่อ 7 ปีก่อนที่เนื้อเรื่องของภาคหลักจะเริ่มต้นขึ้น เกี่ยวกับศึกระหว่างโกลด์เซนต์ กับเหล่าเทพ ไททัน ซึ่งฟื้นคืนชีพขึ้นมา ตัวเอกของภาคนี้คือ เลโอ ไอโอเรีย ในวัยหนุ่ม ผู้ยังมีความเป็นขบฎในตัวสูง และไม่ลงรอยกับแซงค์ทัวรี่ จากเหตุการณ์ที่พี่ชายถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฎ และถูกสังหารโดยโกลด์เซนต์ด้วยกันเอง
  • ภาค Next Dimension
เป็นภาคที่แต่งและวาดขึ้นใหม่โดยตัวคุรุมาดะเอง ขณะนี้กำลังลงตีพิมพ์อยู่ในนิตยสารโชเน็นแชมเปี้ยนของญี่ปุ่น โดยลงเป็นหน้าสีทั้งตอน แบบนานๆ ออกหน เรื่องราวจะสัมพันธ์กับเนื้อเรื่องในตอนท้ายของภาคเจ้านรกฮาเดส กล่าวย้อนความไปถึงสงครามศักดิ์สิทธิ์ เมื่อ 243 ปีก่อน ตัวเอกของภาคนี้คือ บรอนซ์เซนต์ เพกาซัส เท็มมะ ผู้พบว่า อาโรน เพื่อนรักของตน กลับกลายเป็นร่างทรงของฮาเดส
  • ภาค The Lost Canvas
เป็นภาคที่คุรุมาดะเป็นผู้แต่งเนื้อเรื่อง แต่เปลี่ยนผู้วาดภาพเป็น ชิโอริ เทชิโรงิ กล่าวถึงสงครามศักดิ์สิทธิ์ครั้งก่อน และตัวเอกคือ เพกาซัส เท็มมะ เช่นเดียวกับภาค Next Dimension แต่มีการดำเนินเรื่องแตกต่างกัน เหตุเกิดในทวีปยุโรป ช่วงศตวรรษที่ 18 ไลบร้า โดโก สืบสาวร่องรอยของฮาเดส จนมาถึงเมืองหนึ่ง ณ ที่นั้น เท็มมะ เด็กหนุ่มเชื้อสายญี่ปุ่น ผู้มีฝีมือด้านต่อยตี กับ อาโรน เด็กหนุ่มจิตใจดี ที่รักและเล่าเรียนการวาดภาพ อาศัยอยู่ร่วมกับเด็กๆ ในย่านคนยากไร้ โดโกเห็นแววในตัวเท็มมะ จึงชักชวนไปรับการฝึกฝนเพื่อเป็นเซนต์ที่แซงค์ทัวรี่ ขณะอยู่ที่นั่น เท็มมะพบว่า เทพีอาธีน่าที่เหล่าเซนต์ปฏิญาณจะภักดีด้วยนั้น หาใช่ใครอื่น แต่เป็น ซาชา น้องสาวของอาโรน ที่เคยเติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าพร้อมกับพวกเขานั่นเอง ขณะเดียวกัน อาโรน ซึ่งกำลังรอคอยการกลับมาของเพื่อนอยู่ที่บ้านเกิด กลับค่อยๆ ถูกแพนโดร่าชักนำให้โอบรับความมืด ในฐานะร่างทรงของฮาเดส สงครามศักดิ์สิทธิ์จึงได้เปิดม่านขึ้น พร้อมกับความสัมพันธ์ที่ถูกชะตากรรมเล่นตลกของทั้งสาม
 
เกราะ

คลอธ (聖衣 ; Cloth)
เปรียบเสมือนเครื่องป้องกันร่างกายของเหล่าเซนต์แห่งอาธีน่า ปกติจะมีรูปร่างต้นแบบแตกต่างกันไปตามลักษณะของกลุ่มดาวของเซนต์แต่ละคน แต่เมื่อถึงเวลาทำการต่อสู้ คลอธจะแยกชิ้นส่วนออกมาประกอบเข้ากับร่างกาย ซึ่งนอกจากทำหน้าที่เป็นชุดเกราะป้องกันแล้ว ยังทำให้ผู้สวมใส่สามารถเร่งพลังคอสโมได้สูงขึ้น ส่งผลให้พลังโจมตีเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย โดยปกติแล้ว ถ้าหากคลอธได้รับความเสียหายเล็กน้อยจากการต่อสู้ ก็จะซ่อมแซมตัวเองได้ ทว่าหากได้รับความเสียหายอย่างหนักจนไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ หรือผู้เป็นเซนต์ไม่ได้สวมใส่คลอธนั้นๆ เป็นเวลานานเกินไป คลอธอาจจะตาย ซึ่งการจะชุบชีวิตให้คลอธฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง จำเป็นจะต้องใช้เลือดจำนวนมากของเซนต์ แต่สำหรับคลอธฟีนิกซ์ ถือเป็นข้อยกเว้น เนื่องจากเป็นคลอธเพียงหนึ่งเดียวในบรรดาคลอธทั้งหมด ที่สามารถซ่อมแซมและฟื้นฟูสภาพได้เอง แม้จะถูกทำลายจนแหลกเป็นผุยผง
คลอธของเซนต์แห่งอาธีน่า สามารถแบ่งได้เป็น 3 ระดับ ดังนี้
  • บรอนซ์คลอธ (Bronze Cloth) เป็นคลอธระดับต่ำสุดในคลอธทั้งหมด ไม่มีสีที่ตายตัว ทนอุณหภูมิได้ -150 ºC
  • ซิลเวอร์คลอธ (Silver Cloth) เป็นคลอธของซิลเวอร์เซนต์ มักมีโทนสีออกไปทางสีเงิน ทนอุณหภูมิได้ -200 ºC
  • โกลด์คลอธ (Gold Cloth) คลอธสีทองซึ่งมีระดับสูงสุด สวมใส่โดยโกลด์เซนต์ทั้ง 12 คน มีลักษณะเป็นตัวแทนตามจักรราศี ทนอุณหภูมิได้ถึงศูนย์องศาสัมบูรณ์ (-273.15ºC)
นอกจากนี้ ยังมีบรอนซ์คลอธที่พัฒนาไปสู่จุดที่สูงกว่าคลอธใดๆ คือเป็นเกราะแห่งเทพ (ก็อดคลอธ) รวมทั้งยังมีคลอธของเทพีอาธีน่าเองอีกด้วย
สำหรับชุดคลอธแบบอื่นๆ ได้แก่
  • แบล็กคลอธ (Black Cloth) เป็นคลอธที่สวมใส่โดยเหล่าแบล็กเซนต์ ว่ากันว่าถูกค้นพบที่เกาะเดธควีน ซึ่งคลอธที่แบล็กโฟร์ และแบล็กฟีนิกซ์สวมใส่ จะมีลักษณะเหมือนกับบรอนซ์คลอธของพวกเซย์ย่าทุกประการ แต่ต่างกันตรงที่เป็นสีดำสนิท
  • สตีลคลอธ (Steel Cloth) เป็นคลอธที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ โดย ศจ. อาซาโมริ แห่งมูลนิธิกราด สวมใส่โดยเหล่าสตีลเซนต์ มีต้นแบบมาจากสัตว์ 3 ชนิด ได้แก่ นกทูแคน (สกายคลอธ) หมาจิ้งจอก (แลนด์คลอธ) และปลากระโทงแทง (มารีนคลอธ) แม้จะไม่สามารถช่วยให้ใช้พลังคอสโมได้เหมือนกับคลอธของเซนต์แห่งอาธีน่า แต่เนื่องด้วยเทคนิคทางวิทยาศาสตร์กับอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งลงไป จึงทำให้มีประสิทธิภาพมากพอๆ กับบรอนซ์คลอธ
ก็อดโร้บ (神闘衣 ; God Robe) 
สวมใส่โดยก็อดวอริเออร์แห่งแอสการ์ดทั้ง 8 คน มีลักษณะเป็นตัวแทนสัตว์ตามเทพนิยายนอร์ส ในก็อดโร้บแต่ละชุดจะมีหินที่เรียกว่า โอดินแซฟไฟร์ ซึ่งเป็นเหมือนชีวิตของก็อดวอริเออร์ฝังอยู่ด้วย โดยหากนำโอดินแซฟไฟร์ทั้ง 7 เม็ด จากก็อดวอริเออร์ทั้ง 7 (ไม่นับรวม อัลกอร์ นักรบเงาแห่งดาวเซต้า) ไปแสดงต่อหน้ารูปปั้นเทพโอดิน ชุดเกราะแห่งเทพโอดิน "โอดินโร้บ" ก็จะปรากฏออกมา
สเกล (鱗衣 ; Scale) 
ชุดเกราะที่เจ้าสมุทรโปเซดอนเป็นผู้สร้างขึ้น สวมใส่โดยมารีนเนอร์แห่งโปเซดอน โดยมีลักษณะเป็นตัวแทนสัตว์ทะเล สัตว์ประหลาด และบุคคลในเทพนิยาย ทำด้วยแร่โอริคัลคุม ในนครแอตแลนติส มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับโกลด์คลอธ แต่สีจะค่อนออกไปทางสีส้มหรือทองแดงมากกว่า
เซอร์พริส (冥衣 ; Surplice) 
สวมใส่โดยสเปกเตอร์แห่งฮาเดส มักออกแบบมาจากสัตว์ที่น่ากลัว นอกจากเซอร์พริสทั้ง 108 ชุด ยังมีชุดของ ราดาแมนทีส มีนอส ไออาคอส ฮาเดส ธานาทอส ฮิปนอส และโกลด์เซนต์ที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใส่คลอธสีดำอีก 6 คน
โซม่า (楚真 ; Soma) 
สวมใส่โดยเหล่าเทพไททัน มีทั้งหมด 12 ชุด ออกแบบให้มีรูปลักษณ์เป็นอาวุธชนิดต่างๆ ชุดจะมีสีน้ำเงินเข้มออกม่วง เป็นชุดที่พระแม่ธรณี ไกอา มอบให้กับเหล่าไททัน ในคราที่โค่นล้มยูเรนัสในอดีตกาล
กลอรี่ (天衣 ; Glory) 
สวมใส่โดยเหล่าแองเจิลแห่งอาร์เทมิส ชุดจะไม่ค่อยครอบคลุมทั้งร่าง คือค่อนข้างจะเน้นคล่องตัวเป็นหลัก สีของชุดไม่แน่นอน